3 เมษายน 2554 @ นัดคุยกับคนพิการที่สนใจเป็นตัวแทนประกันชีวิตที่บ้าน เพื่อสร้างทีมงานตัวแทน

สวัสดีครับ เพื่อนๆ วันนี้เป็นอีกวันทีี่ ผมได้ทำหน้าที่ตัวแทนประกันชีวิตที่ดี ในการแนะนำผู้สนใจเป็นตัวแทนประกันชีวิตคนใหม่ ให้หัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานได้รู้จักกัน ซึ่งพี่จันดี กิตติบวร หัวหน้างานของผมก็ได้อธิบายหลักการง่ายๆ ของประกันชีวิต ประโยชน์ของการเป็นตัวแทนฯ และวิธีการเป็นตัวแทนประกันชีวิตที่ดี

บรรยากาศโดยรวมดีมาก และทำให้ผมได้รับความรู้เพิ่มเติมมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะเป็นความรู้ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น ที่ดีมาก ทำให้เข้าใจเลยว่า ทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงมีอัตราการทำประกันชีวิตสูงมากกว่า 300% เช่น
  • ในระดับอุดมศึกษา มีการบรรจุหลักสูตรเกี่ยวกับประกันชีวิต จึงทำให้ประชากรในประเทศมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการทำประกันชีวิต ที่ไม่ใช่แค่เป็นการลดความเสี่ยงของตัวเองผู้เอาประกันเอง แต่ยังทำให้ประเทศชาติมั่นคงด้วย จากการนำเบี้ยประกัน 25% ไปเป็นหลักประกันของประเทศได้ ทำให้ประเทศนั้นๆ สามารถนำเงินไปพัฒนาประเทศได้
  • ที่ญี่ปุ่น มีค่านิยมที่ พ่อ แม่ จะทำประกันชีวิตให้ลูก
  • และค่านิมยม ที่เด็กจบใหม่ เมื่อทำงาน จะนำเงินเดือน เดือนแรกไปทำประกันชีวิตให้กับตัวเอง เพื่อเป็นการตอบแทน ที่บุพการี ได้อุตส่าห์เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ และส่งเสียให้ได้เล่าเรียนจนจบการศึกษา หากเป็นอะไรกับชีวิตขึ้นมา ก็ยังถือว่าได้ตอบแทนคุณให้กับบุพการี เป็นการเห็นคุณค่าของตัวเอง และความเหนื่อยยากของพ่อ แม่
ทำให้ผมเข้าใจเลยว่า ทำไมในญี่ปุ่นถึงมีอัตราการทำประกันชีวิตสูงมาก เมื่อเปรียบเทใียบกับคนไทยแล้ว ช่างต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่ในสถาณการณ์เดียวกันนี้ละ ที่ทำให้ผมตัดสินใจมาเป็นตัวแทน เพื่อที่ผมอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน ให้คนไทยตื่นตัว และหันมาให้ความสำคัญกับการทำประกันชีวิตมากๆ อย่าได้เป็นเหมือนผม ที่พลาดมาแล้ว ผมเห็นความสำคัญกับการทำประกันชีวิต แต่ไม่ได้ทำ จนในที่สุดก็ประสบอุบัติเหตุจนเป็นคนทุพพลภาพ จนได้

อีกประการหนึ่ง ที่ก็ทำให้ผมเข้าใจเลยว่า ไม่ว่าประเทศญี่ปุ่นจะต้องพบเจออุปสรรคหนักหนาเพียงใด ต้องใช้เงินทองมากมายแค่ไหน ญี่ปุ่นก็ยังสามารถจะยืนหยัดอยู่ได้ ท่ามกลางปัญหา เช่น ปัจจุบันที่ต้องประสบปัญหาซึนามิ และการรั่วไหลของรังสีปรมาณู ญี่ปุ่นต้องทุ่มเงินมหาศาลในการประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศในช่วงวิกฤ๖ และยังต้องฟื้นฟูประเทศอีกมาก นั่นเพราะว่า ญี่ปุ่นมีเงินสำรองเยอะมาก และส่วนหนึ่งของเงินนั้นคือ มาจากการที่ประชากรในประเทศทำประกันชีวิตในอัตราที่สูงมากกว่า 300%

ผมจึงยิ่งมีความมั่นใจว่า การที่ผมได้เป็นตัวแทนที่่ดีนั้น ผมกำลังช่วยประเทศชาตได้ และยังช่วยคนที่ผมรู้จัก และรักได้ด้วยในคราวเดียวกันครับ


ผม พี่จันดี กลาง) และพี่หมู
เราสามคนเคยทำงานที่เดียวกันเมื่อเกือบ 19 ปีก่อนครับ

น้องสม (ซ้าย) อาสาสมัครดูแลคนพิการ และ
คุณผักกาด (ขวา) คนพิการที่สนใจเป็นตัวแทน



ผมก็หวังว่า บทความในตอนนี้ จะพอเป็นแนวคิด และแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านที่มีความต้องการจะทำประกันชีวิตอยู่แล้วได้ตัดสินใจง่ายขึ้น ส่วนใครที่อยากมาเป็นตัวแทนฯ มาเป็ฯฑูตนำความมั่นคงของีวิตไปส่งต่อให้กับผู้อื่น และคนที่เรารัก ก็ตัดสินใจง่ายขึ้นครับ

ถ้าท่านใดสนใจให้ผมเสนอแผนออมเงิน หรือประกันชีวิต สามารถกรอกแบบฟอร์มข้อมูลเบื้องต้นได้ที่ลิงก์นี้ครับ http://preedaaspiration.blogspot.com/2011/01/38.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น